ตอนที่3บ่อปลาคาร์ป


                        มีเด็กชายคนหนึ่งชื่อว่า โยตะ ตอนนี้กำลังอยู่ป.5 ทุกวันที่ไปโรงเรียนโยตะมักจะถูกเพื่อนกลุ่มหนึ่งแกล้งอยู่ประจำ ทุกวันที่ไปกินข้าวเพื่อนกลุ่มนี้ก็มักจะมาแย่งอาหารอร่อยๆของโยตะ จนบางครั้งก็เหลือแต่ข้าวเปล่า บางวันโยตะก็จะโดนเพื่อนกลุ่มนี้ไถเงินไปจนเหลือแต่เศษเหรียญ อยู่มาวันหนึ่งในขระที่โยตะกำลังเดินกลับบ้านอยู่นั้น ก็ได้ไปเจอบ้านหลังหนึ่งที่มีช่องทางเข้าเล็กๆพอที่จะให้โยตะเข้าไปได้ ด้วยความเป็นเด็กความอยากรู้อยากเห็นก็เกิดขึ้น โยตะได้แอบลอดช่องเล็กๆนั้นเข้าไป เมื่อเข้ามายังตัวบ้าน โยตะก็ได้เจอบ่อปลาคาร์ปขนาดใหญ่ โยตะเห็นดังนั้นจึงหยิบขนมปังในกระเป๋าออกมาเพื่อที่จะให้ปลากิน ทันใดนั้นก็มีเสียงแหบๆพูดขึ้นว่า


                        “อย่าให้ขนมปังกับปลานะ เทพเจ้าในบ่อปลาไม่ชอบ”

                        “เอ่อ! ขอโทษครับ…ผมไม่รู้ว่าบ้านหลังนี้มีเจ้าของ”

                        คุณยายคนนี้ก็ไม่พูดอะไร แล้วเดินไปหยิบอาหารปลามา คุณยายโยนอาหารปลาไปเล็กน้อย

                        “อยากลองให้อาหารปลาดูไหม”

                        “เอิ่ม…ได้หรอครับ”

                        คุณยายยื่นอาหารปลาให้โยตะ โยตะเองก็รับอาหารปลามา แล้วโยนลงไปในบ่อ ปลาคาร์ปในบ่อก็มารุมกินอาหารที่โยตะให้ โยตะรู้สึกตื่นเต้นมาก เพราะไม่เคยเห็นปลาคาร์ปที่ตัวใหญ่ขนาดนี้มาก่อน

                        “เอามาอีก ขนมปังในมือ เอามา…”

                        โยตะได้ยินเสียงพุดมาจากบ่อ

                        “เอามาให้ข้า เอามันมาให้ข้าอีก”

                        “ท่านเทพอยากกินขนมปังของหนู เอาให้ท่านเทพสิ”

                        โยตะโยนขนมปังในมือให้ปลาที่อยู่ในบ่อ จากนั้นคุณยายก็บอกว่า ท่านเทพชอบโยตะ วันหลังให้มาอีก แล้วคุณยายก็ยื่นกุญแจให้กับโยตะ โยตะเองก็รับไว้…วันต่อมา โยตะก็ไปโรงเรียนเหมือนทุกวัน และเขาก็โดนแกล้งจากเด็กกลุ่มเดิมเหมือนอย่างเคย พอตกตอนเย็นโยตะก็รีบกลับเพื่อที่จะได้ไปบ้านหลังนั้น โยตะแวะซื้อขนมปังมาจำนวนมาก แล้วรีบวิ่งไปบ้านหลังนั้นทันที เมื่อโยตะมาถึงก็ไขกุญแจแล้วเข้าไปอย่างเงียบๆ เพราะโยตะไม่อยากให้ใครเห็น เมื่อโยตะเข้ามาแล้ว ก็รีบตรงไปที่บ่อปลาทันที เขาฉีกขนมปังแล้วโยนลงบ่อปลาทีละชิ้น ปลาก็มารุมตอดขนมปังจำนวนมาก โยตะมีความสุขมากที่ได้ทำอะไรแบบนี้ เพราะตั้งแต่เขาโตมา เขาเองไม่มีเพื่อนเลยแม้แต่คนเดียว และเขาคิดว่าปลาพวกนี้นี่แหละที่เป็นเพื่อนเขาในตอนนี้ โยตะมาให้อาหารปลาทุกวัน จนกระทั่งวันหนึ่ง เมื่อดยตะกำลังจะเดินออกจากโรงเรียน อยู่ๆเด็กกลุ่มนั้นที่ชอบแกล้งโยตะก็พากันมาล้อมโยตะไว้ 


                        “เห้ย!โยตะ เดี๋ยวนี้มีที่เล่นใหม่ไม่เห็นบอกกันเลย ทำไมมีคนเห็นเอ็งเข้าไปเล่นในบ้านหลังนั้นได้ว่ะ ไหนเขาลือกันว่ายายแก่บ้านนั้นดุ แล้วทำไมเอ็งถึงเข้าไปเล่นได้”

                        “อะไร ไม่มี ไม่ได้เข้าไปเล่น ปล่อยเราไปเถอะนะ”

                        “โกหก! ไม่ปล่อยหรอกเว้ย เห้ย!!จับมันไว้”

                        หัวหน้าแก๊งสั่งให้อีกสองคนจับตัวโยตะไว้ แล้วก็ค้นตัวโยตะ จนเจอกุญแกที่คุณยายให้ไว้

                        “ไหนบอกว่าไม่มีอะไรไง แล้วนี่อะไร”

                        “เอาคืนมาเถอะนะ แล้วเราจะยอมทำทุกอย่างที่นายต้องการเลย ขอร้องล่ะ”

                        “ไม่เว้ย!! เห้ยพวกเรา ไปบ้านหลังนั้นกันดีกว่า ดูซิว่ามันมีอะไรน่าเล่น”

                        จากนั้นหัวหน้าแก๊งก็สั่งให้จับตัวโยตะไปขังในห้องน้ำ โยตะพยายามตะโกนขอความช่วยเหลือ แต่ด้วยความที่มันเป็นเวลาตอนเย็นจึงไม่มีใครเดินผ่านมาเลย จนกระทั่งเวลาผ่านไปประมาณ 10 นาที
ก็มีครูเดินผ่านมาแล้วพบว่าโยตะถูกขังอยู่ในห้องน้ำ จึงได้ช่วยเปิดประตูให้ เมื่อโยตะออกมาได้ก็รีบวิ่งไปที่บ้านหลังน้ันทันที เมื่อมาถึงก็เห็นว่าเด็กกลุ่มนั้นได้ใช้มือตักปลาออกมาจากบ่อ แล้วหมาตัวใหญ่ของเด็กอีกคนก็กินปลาพวกนั้น โยตะเห็นเขาก็ทรุดลงกับพื้น ภาพที่เขาเห็นมันทำให้เขารู้สึกแย่มาก ในใจเขาได้แต่คิดว่า เป็นเพราะเขาหรอที่ทำให้ปลาในบ่อเป็นแบบนี้ ถ้าคุณยายมาเห็นสภาพนี้ต้องดุด่าต้องตีเราแน่ๆ ทำไมเราถึงทำให้ต้องเกิดเรื่องเลวร้ายแบบนี้ด้วย เมื่อเด็กพวกนั้นเล่นจนเบื่อก็พากันกลับไป เหลือเพียงโยตะที่นั่งคุกเข่าร้องไห้อยู่ ทันใดนั้น เขาก็ได้ยินเสียงคุณยายร้องไห้ดังมาแต่ไกล เมื่อโยตะหันไปก็เห็นคุณยายที่สภาพหัวฟู เนื้อตัวมอมแมมเดินร้องไห้ตรงมาที่เขา


                        “คุณยายครับ ผมผิดไปแล้ว ผมขอโทษที่รักษาปลาไว้ไม่ได้”

                        “ไม่เป็นไรนะหนู ไม่เป็นไร ยายรู้ว่ามันไม่ใช่ความผิดของหนู เดี๋ยวยายจัดการเรื่องพวกนี้เอง”

                        คุณยายพูดพร้อมตบไหล่โยตะเบาๆ โยตะเงยหน้ามามองคุณยาย ภาพที่โยตะเห็น เป็นคุณยายที่น้ำตาไหลนองหน้าอาบแก้มทั้งสองข้างแต่ปากฉีกยิ้มกว้าง

                        จากนั้นโยตะก็กลับมาบ้าน…เช้าวันต่อมา โยตะตื่นขึ้นมาก็ได้ยินเสียงรถวิ่งผ่านหน้าบ้านเขาจำนวนมาก เมื่อโยตะลุกออกมาดูก็พบว่าวันนี้บรรยากาศรอบบ้านแปลกไป ทุกคนออกมายืนมุงดูบางอย่างเต็มไปหมด และยังมีรถตำรวจมาจอดหน้าบ้านคุณยายอีกด้วย หรือว่า…

                        โยตะรีบวิ่งออกไปดู พบว่าคุณยายนั้นถูกใส่กุญแจมือพร้อมกับตำรวจที่กำลังพาคุณยายขึ้นรถไป โยตะได้ถามคนแถวนั้นก็พบว่า มีเด็กคนหนึ่งในแก๊งที่ชอบแกล้งโยตะแขนขาดไปข้างหนึ่ง ตำรวจสันนิษฐานว่า เมื่อตอนกลางคืนที่ผ่านมาคุณยายได้ไปขโมยหมาของเด็กคนนั้นมา แล้วเด็กคนนั้นก็ตื่นขึ้นเพราะได้ยินเสียงหมาของตัวเองเห่าจึงวิ่งออกมาดู 


                        “เห้ย!!ยายแก่ แกจะเอาหมาฉันไปไหน เอาคืนมานะเว้ย”


                        แล้วเด็กคนนั้นก็วิ่งตามเข้าไปในบ้านของคุณยาย แต่แปลกตรงที่ว่าพ่อแม่ของเด็กไม่ได้ยินเสียงหมาเห่า จึงไม่มีใครตื่นมาดู มีเพียงแค่เด็กคนนั้นเท่านั้นที่วิ่งออกมา พอเช้าวันต่อมา พ่อแม่เด็กพบว่าเด็กนั้นหายตัวไป จึงแจ้งตำรวจ แล้วก็พบเด็กคนนั้นนอนกองอยู่ตรงบ่อปลาคาร์ปพร้อมกับหมาที่ตายไปแล้ว แต่เด็กคนนั้นแขนซ้ายเขาหายไปด้วย


                        เวลาผ่านไปหลังจากที่เหตุการณ์นั้นผ่านไปได้ 3 วัน โยตะก็ได้แอบเข้าไปในบ้านคุณยายอีกครั้ง เมื่อเข้าไปแล้วก็ตรงไปที่บ่อปลา ภาพที่โยตะเห็นคือบ่อปลานั้นแห้ง ไม่มีน้ำแม้แต่น้อย ปลาที่เหลือก็หายไปเช่นกัน แต่ข้างๆบ่อมีรอยเลือดกองอยู่คาดว่าน่าจะเป็นเลือดของเด็กคนนั้น


                        แต่สิ่งที่โยตะสงสัยและค้างคาใจนั้นคือเทพเจ้าที่คุณยายบอกนั้นมีจริงหรือไม่ แล้วแขนเด็กคนนั้นหายไปไหน เป็นฝีมือคุณยายจริงหรือไม่ เพราะคุณยายเองก็แก่มากแล้ว แรงที่จะทำอะไรแบบนี้จะไหวหรอถ้าเป็นคุณยายทำจริงๆ หรือว่าเด็กคนนั้นจะโดนคำสาปจากเทพเจ้า แล้วเด็กคนอื่นจะโดนอะไรหรือเปล่า นี่ก็เป็นสิ่งที่ตัวของโยตะเองสงสัยมาตลอดตั้งแต่เกิดเหตุการณ์นี้…




ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ตอนที่6เล็บชมพู

ตอนที่7ต้องตัดสินใจ